มันน่าเศร้า เมื่อนึกถึงลุงศักดิ์สิทธิ์

    เรื่องนี้คุณต้องอ่านให้จบนะครับ  มันน่าเศร้ามาก  เมื่อคนที่เรารู้จักทยอยเสียชีวิตไปทีละคนๆ  แถมซ้ำลุงคนนี้ยังเป็นคนพิการด้วยกัน

             ผมขอเล่าเรื่องนะครับ  เมื่อกลางปี 2553  คุณลุงศักดิ์สิทธิ์  ( นามสกุลผมจำไม่ได้ครับ )  ได้มาทำการกายภาพบำบัดที่สวางคนิวาสสภากาชาดไทยที่สมุทรปราการ  ส่วนผมก็มาทำกายภาพเหมือนกัน  ในตอนแรกผมเห็นลุงนั่งเล่นบนรถวิวแชร์ เล่นอยู่ใต้ตึกอยู่คนเดียว  ผมก็นั่งรถไฟฟ้ามาเล่นเหมือนกัน  เพราะคุ้นเคยกับที่นี้เป็นอย่างดี  เพราะเจ้าหน้าที่ที่นี้ดีกันทุกคนเลย  ข้างๆ รถลุงมีกระบอกใส่ปัสสาวะ  ส่วนขาทั้งสองข้างของลุงขาดครับ  ผมมารู้ตอนหลังว่า  ลุงเป็นเบาหวานโดนตัดขาจนเกือบถึงหัวเข่า

   ผมได้เข้าไปทักและคุยกัน  ลุงศักดิ์สิทธิ์เป็นคนคุยตลก  คือเป็นคนคุยสนุกไม่เครียดกับเรื่องใดๆ  คล้ายกับผมมาก  เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมกับลุงสนิทกันเร็วขึ้น     ลุงศักดิ์สิทธิ์เป็นคนไทยเชื้อสายจีน  บ้านอยู่แถวเยาวราช และมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว  คุณลุงบอกผมว่าขายดีมาก  เคล็ดลับในการทำมาจากบรรพบุรุษ  เป็นที่รู้จักกันดีในระแวกนั้น 

  ผมกายภาพบำบัดที่นั้น  1 เดือนได้  และคุยกับลุงทุกวัน  ในวันหยุดถ้าลุงไม่กลับบ้าน  ลุงก็จะมาเล่นกับผมและแฟนผมทุกวัน  เพราะไม่กลับบ้านอยู่แล้ว  ส่วนป้า ( แฟนลุงศักดิ์สิทธิ์ )  ก็มาเยี่ยม  มาแต่ละครั้งก็จะมีก๋วยเตี๋ยวติดไม้ติดมือมาทุกครั้ง  ทางป้าก็คุยเป็นกันเองมากครับ  ผมยังซึ้งในน้ำใจท่านเสมอ

   เมื่อครบกำหนดตามที่หมอให้ทำกายภาพแล้ว  มาถึงคราวที่ต้องกลับบ้าน  ก่อนกลับบ้านคุณลุงบอกว่าไม่อยากกลับเลย  เพราะกลับบ้านลุงบอกว่าต้องเหงาและคิดถึงผมแน่  ลุงบอกผมว่าผมเป็นคนใจดี  คุยสนุกอยู่ด้วยแล้วไม่เหงา  ผมเลยบอกลุงไปว่า " เหงาเราก็โทรคุยกันได้ครับลุง "  พอลุงศักดิ์สิทธิ์กลับไป  เราก็โทรหากันเรื่อยๆ  จนมาถึงปี 2554 ช่วงต้นปี  ผมจำไม่ได้ว่าวันไหน  โทรหาแกครั้งสุดท้าย  เราก็คุยกันดีครับ  แต่ผมมารู้ตอนหลังว่าแกหลง ๆ ลืม ๆ เพราะอะไรก็ไม่รู้ 

   จากนันผมกับลุงศักดิ์สิทธิ์  ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันอีกเลย  จนมาถึงวันที่ 16 เมษายน 2555 พอดีทางแฟนผมไปซื้อของแถวนั้นพอดี  และได้ไปกินก๋วยเตี๋ยว  เผอิญเป็นร้านคุณป้า ( แฟนลุงศักดิ์สิทธิ์ )  ที่กำลังขมักเขม็นในการขายก๋วยเตี๋ยว  ตอนแรกแฟนผมเล่าให้ผมฟังว่า  ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปทัก  แต่พอแน่ใจเลยเข้าไปคุยด้วย  ส่วนทางคุณป้าตอนแรกคุณป้าก็นึกว่าลูกค้าขาประจำ  พอแฟนผมถามถึงลุงศักดิ์สิทธิ์  ป้าเลยเลยหันหน้ามามองทางแฟนผม  แล้วนิ่งไปพักหนึ่ง  คุณป้าเลยร้อง "อ๋อ" ขึ้นมา  ป้าบอกว่าจำได้แล้ว  ป้าตอบเรื่องของลุงศักดิ์สิทธิ์  อย่างเศร้าๆ ว่า  ลุงเขาไปสวรรค์ตั้งแต่  ปีที่แล้ว

  ทางป้าได้เล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟัง  ก่อนที่ลุงศักดิ์สิทธิ์จะเสีย  ลุงบ่นคิดถึงพิเชษฐตลอดเลย  บอกให้ป้าพาไปหาหน่อย  ป้าก็ไม่มีเวลาสักที  จนหาวันว่างได้  เป็นวันที่ 14 เมษายน ปีที่แล้ว  ลุงกับป้ามาตามหาผมที่สวางคนิวาส  ถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก  ส่วนชื่อแฟนผมลุงก็จำไม่ได้  เลยให้ป้าเข็นรถวิวแชร์ตามหาที่ซอยวัดอโศการาม  เพราะลุงจำได้ว่าผมอยู่ซอยนี้  ถามใครๆ เขาก็บอกไม่รู้ๆ  จนลุงถอดใจ
ป้าได้เล่าให้แฟนผมฟังว่า  ก่อนจะมาหาผมลุงบอกให้ป้าไปซื้อปลานึ้งมา  โดยลุงบอกป้าว่าพิเชษฐ เขาชอบกินปลามาก  ให้ป้าไปหาซื้อให้หน่อย  จะเอาไปฝากพิเชษฐ ( ป้าพูดแบบเศร้าๆ )

  หลังจากหาผมไม่เจอ  ลุงกับป้าก็กลับบ้าน  ในระหว่างเดินทางกลับบ้าน  ป้าเล่าต่อว่าลุงไม่ยิ้มเลย  จนมาถึงบ้าน  และทางญาติๆ พากันพยุงลุงลงจากรถแท็กซี่  แล้วทำลุงล้มลงกับพื้น  และได้พาลุงส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  หลังจากนั้นลุงศักดิ์สิทธิ์ก็นอนพักรักษาประมาณ 1 เดือน ลุงก็เสียชีวิต

   ผมขอแสดงความความเสียใจ  กับครอบครัวของคุณศักดิ์สิทธิ์ด้วยนะครับ  ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่า  การพูดคุยทักทายและให้กำลังใจคนป่วย  ทำให้เขาเหล่านั้นมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้  กับปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่  อยากให้ทุกๆท่านหันกลับมามองคนรอบข้างเราให้มากๆ  อยู่ข้างเขา  ให้กำลังใจเขา  ผมรู้สึกแย่มากเมื่อได้รู้ข่าว  ยังนึกในใจตัวเองว่า  มีคนให้ความสำคัญกับเรามากขนาดนี้เลยเหรอมันทำให้ผมอยากให้กำลังใจคนอื่น  ถ้ามีโอกาส

  ตอนแฟนจะกลับ  ป้ายังฝากก๋วยเตี๋ยวที่ร้านมาให้ผมอีก และก๋วยเตี๋ยวที่แฟนผมกับแม่ยายทาน  ป้าก็ไม่เก็บตังค์อีกครับ  ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้แฟนผมมาเจอคุณป้า  ขอให้ขายดิบ ขายดี รวยๆ นะครับ  ใครผ่านไปทางนั้น ( เยาวราช )  อย่าลืมไปอุดหนุนป้าด้วยนะครับ  สังเกตุง่ายๆ ป้าเขาจะไม่ใส่รองเท้าเลยครับ

อย่าถามเลยว่าคิดถึงหรือเปล่า
ลองนับดาวบนฟ้าดีกว่าไหม
เผื่อจะได้คำตอบของหัว ใจ
ที่ซ่อนในดวงดาวหลายร้อยดวง
..

ขอให้  คุณศักดิ์สิทธิ์  ไปสู่สุคติเทอญ  สาธุ

ขอบคุณมากครับที่อ่านข้อความของผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น